หุ้นที่นำมาวิเคราะห์เป็นหุ้นจาก บริษัท คือ |
|
โดย เป็นข้อมูลในช่วงเวลา 6 เดือนตั้งแต่วันที่ 20/5/2018 – 20/11/2018 รวมเป็นเวลาทั้งสิ้น 128 วัน [ตลาดหุ้น ปิด เสาร์-อาทิตย์] |
02/08/2018 |
   Apple รายได้ถึง 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ |
13/09/2018 |
   Apple เปิดตัวชิปประมวลผลใหม่ A12 BIONIC |
30/05/2018 |
   HP เปิดตัว Laptop เกมมิ่งขนาดเล็กที่มาพร้อมกับ CPU Gen 8th |
05/09/2018 |
   HP เปิดตัวสินค้าใหม่สำหรับสาย Work Station |
05/07/2018 |
   Google คิดค้นเครื่องมือสำหรับตรวจสอบ PC ที่จุดปลายทาง |
5/07/2018 |
   ฟังก์ชั่น Google Cloud ในสถานะของบริการ GA สำหรับ Cloud Server แบบไม่ใช้ Serverless และ Google เปิดตัวบริการ Cloud สร้างบริการที่ช่วย CI / CD บนระบบคลาวด์ |
30/07/2018 |
   Intel เปิดตัว CPU i9-9900k ซึ่งเป็น Gen 9th ที่มี 8 core 16 thread |
17/08/2018 |
   Intel เปิดตัว PC ขนาดเล็กที่มาพร้อมกับ CPU Gen 8 พร้อมทั้ง VGA Lris |
04/06/2018 |
   Microsoft เข้าซื้อ Github เป็นจำนวนเงิน 7.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ |
11/08/2018 |
   Satya Nadella ขายหุ้นของ Microsoft ได้ 30% และได้รับกำไร 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ |
19/09/2018 |
   Apple เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่คือ iPhone Xs และ iPhone Xs Max |
24/10/2018 |
   iCloud เกิดการทำงานช้าส่งผลให้ผู้ใช้ไม่สามารถเข้าถึงได้ |
21/06/2018 |
   HP ได้เปิดตัว PC และ Laptop ตัวใหม่เช่น Pavilion x360 และ ENVY x360 ซึ่งมีแบตเตอรี่ที่แย่มาก |
02/10/2018 |
   HP เปิดตัวแบตเตอรี่ Spectre Folio 2 in 1 ที่มีอายุการใช้งานแบตเตอรี่ 18 ชั่วโมง แต่ความเป็นจริงสามารถอยู่ได้เพียง 10 ชั่วโมงเท่านั้น |
04/06/2018 |
   Google ไม่ต่ออายุสัญญากับกระทรวงกลาโหมหลังจากการประท้วงของพนักงาน |
27/10/2018 |
   Google ได้ไล่ออกบุคลากรจำนวน 48 คนที่ล่วงละเมิดทางเพศซึ่งรวมถึงนักพัฒนาแอนดรอยด์ |
15/06/2018 |
   Intel พบข้อผิดพลาดใน Intel CPU Spectre ซึ่งสามารถอ่านค่าตัวแปรในโปรเซสเซอร์อื่นได้ |
21/06/2018 |
   Brian Krzanich CEO ของ Intel ลาออกหลังจากมีปัญหาทางเพศกับพนักงาน |
08/10/2018 |
   Intel เปิดตัว CPU Core 9th Gen นั่นคือ Core i9-9900k 5GHz |
16/10/2018 |
   Paul Allen ผู้ก่อตั้ง Microsoft เสียชีวิตด้วยวัย 65 ปี |
      หุ้นทุกตัวเกี่ยวกับเทคโนโลยี โดยจากกราฟสังเกตได้ว่าเหตุการณ์ที่ทำให้หุ้นขึ้นนั้นส่วนใหญ่เกิดจากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ซึ่งทำให้บริษัทนั้นเป็นกระแสนิยมในช่วงนั้นทันที ซึ่งส่วนใหญ่จะสังเกตได้ว่า จะเป็นช่วงต้นเดือนอีกด้วย ดังนั้น ช่วงต้นเดือนและช่วงที่ออกผลิตภัณฑ์ใหม่เป็นช่วงที่หุ้นขึ้นมากที่สุดและอาจตกลงมาในทันที่ถ้าผลิตภัณฑ์ที่ออกมาใหม่ด้อยประสิทธิภาพไม่เหมือนที่โฆษณาไว้ |
      ส่วนเหตุการณ์อื่นๆที่เกิดจากปัญหาทั้งวงในของบริษัท เช่น ข่าวด้านช่องโหว่ของข้อมูลหรืออุปกรณ์ที่ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้ รวมทั้งการสูญเสียของบุคคลสำคัญในบริษัท การปรับเปลี่ยนตำแหน่งผู้บริหาร การประท้วงของเหล่าลูกจ้าง ล้วนส่งผลให้หุ้นตกลงอย่างชัดเจน |
      โดยจากทิศทางการขึ้น-ลงของหุ้นนั้น ส่วนใหญ่ เวลาขึ้นก็มีจุดที่เตรียมตก และในทางกลับกัน เมื่อหุ้นตกจะมีช่วงที่กราฟจะเงยหน้าขึ้น เป็นสัญญาณที่ดีว่าหุ้นกำลังจะฟื้นตัวและขึ้นในไม่ช้า ให้ใช้ข่าว ประกอบการตัดสินใจในการซื้อหุ้นในช่วงนั้นจะทำให้มีโอกาสได้กำไรสูง |
      ดังนั้น ถ้ามีข่าวในด้านที่ไม่ดีก็ควรขายหุ้นไปก่อนเพื่อเตรียมซื้อใหม่ตอนที่หุ้นกำลังปรับสภาพขึ้น แต่อย่างไรก็ตามต้องติดตามข่าวสารของบริษัทนั้นๆในการประกอบการตัดสินใจอีกหนึ่งทางด้วย |
      จากกราฟจะเห็นว่า บริษัทที่มีจำนวนครั้งของหุ้นที่ขึ้นสูงกว่าวันก่อนหน้า และ หุ้นที่อยู่สูงกว่าค่าเฉลี่ยคือ หุ้นของ บริษัท Apple และ Microsoft โดยจะสรุปได้ว่า หุ้น Apple และ Microsoftมีแนวโน้มในการขึ้นสูงและทำกำไรได้มากกว่าหุ้นอื่นๆจากหุ้นตัวอย่าง ซึ่งหุ้น Microsof มีอัตราที่อยู่สูงกว่าวันก่อนหน้าและ ค่าเฉลี่ยเป็นจำนวนมากที่สุด จึงนับว่าเป็นหุ้นที่น่าสนใจแก่การลงทุนที่สุดจาก 5 หุ้นตัวอย่าง |
      ต่อมาหุ้น Google ที่มีจำนวนครั้งที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยมากกว่าแต่กลับกันมีจำนวนครั้งที่หุ้นสูงกว่าเมื่อวันก่อนหน้า จึงสรุปได้ว่า หุ้น Google หากตกมาจากวันก่อนหน้า ถือเป็นเรื่องปกติ แต่หากตกมาต่ำกว่าเฉลี่ยแล้วนั้นถือเป็นสัญญาณที่ไม่ค่อยดีต้องตัดสินใจในการ ซื้อ-ขายให้ดี |
      หุ้น HP ที่จำนวนครั้งที่หุ้นสูงกว่าวันก่อนหน้ามากกว่าครึ่งแต่ มีจำนวนครั้งมากกว่าค่าเฉลี่ยต่ำกว่าครึ่ง ซึ่งคือว่าเป็นหุ้นที่ ทรงๆ การที่จะซื้อ-ขายหุ้นนี้ต้องติดตามข่าวสารเป็นพิเศษ |
      สุดท้ายหุ้น Intel ซึ่งมีทั้งจำนวนครั้งที่หุ้นสูงกว่าวันก่อนหน้าและค่าเฉลี่ย ต่ำกว่าครึ่งเอามากๆ จึงถือว่าหุ้น Intel เป็นหุ้นที่มีความเสี่ยงที่สุดจาก 5 หุ้นตัวอย่าง |